ชีวิตในโรงเรียน
> ชีวิตในโรงเรียน
ชีวิตในโรงเรียน
จัดงานปฐมนิเทศแบ่งเป็นภาษาต่างๆ เพื่อแนะนำเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นและชีวิตในโรงเรียนทันทีหลังจากเดินทางมาถึงญี่ปุ่น พร้อมทั้งอธิบายเกี่ยวกับการดำเนินการที่จำเป็นหลังเข้าประเทศญี่ปุ่นที่สำนักงานเขต
จัดให้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างนักเรียนปัจจุบันและนักเรียนเข้าใหม่เพื่อผ่อนคลายความกังวลหลังมาถึงญี่ปุ่น นักเรียนจะได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ชาติเดียวกันทั้งในเรื่องการใช้ชีวิตและการศึกษาเล่าเรียน
จัดตรวจสุขภาพประจำปีให้กับนักเรียนทุกคนปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตการเรียนได้อย่างสบายใจ โดยทางโรงเรียนจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง
นักเรียนจะได้รับเงินชดเชยกรณีเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุระหว่างศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นเป็นจำนวน 30% ของค่าใช้จ่ายจริง ซึ่งจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่ต้องรับผิดชอบเองจากระบบประกันสุขภาพแห่งชาติของญี่ปุ่นได้ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงความรับผิดชอบในการเรียกค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือบรรเทาภัยด้วย กรณีที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหรือโรคภัยก็จะได้รับผลประโยชน์เงินประกันจากการเสียชีวิต
โรงเรียนของเราได้รับการยอมรับจากสำนักตรวจคนเข้าเมืองให้ดำเนินการยื่นเรื่องแทนได้ โดยทางโรงเรียนจะเป็นผู้แทนในการยื่นเรื่องเพื่อ “ขอต่ออายุวีซ่า” และ “ขอใบอนุญาตทำกิจกรรมพิเศษนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในวีซ่า” สำหรับนักเรียนที่เข้าชั้นเรียนสม่ำเสมอเท่านั้น
มีทุนการศึกษา 50,000 เยน/คน สำหรับนักเรียน 3 คนที่ผ่านการคัดเลือกโดยต้องเป็นนักเรียนที่เข้าเรียนสม่ำเสมอและมีผลการเรียนดีเด่นตลอดระยะเวลา 6 เดือน นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีแผนจะศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของญี่ปุ่นและเป็นนักเรียนดีเด่น (ทั้งผลการเรียนและทัศนคติต่อการเรียนรู้) จะได้รับเงินสนับสนุนด้านการศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (30,000 เยนต่อเดือน ในปี 2562)
นักเรียนในหลักสูตรของเราสามารถขอรับส่วนลดในการซื้อตั๋วเดือนสำหรับรถโดยสารประจำทางและรถไฟใต้ดินในเมืองเกียวโต นอกจากนี้ หากจะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศญี่ปุ่นในช่วงวันหยุดยาว ก็สามารถขอรับส่วนลดนักเรียนของ JR ได้
ที่เมืองเกียวโต เรามีการออก “Ryuugakusei Okoshiyasu PASS” เพื่อให้นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกทางวัฒนธรรมต่างๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และมีการออกบัตรเชิญฟรีให้เข้าร่วมเทศกาลทางวัฒนธรรมที่จัดขึ้นภายในเมืองเกียวโต เช่น งานแสดงศิลปะวัฒนธรรมดั้งเดิม งานแสดงดนตรี เทศกาลต่างๆ ด้วย
บทสัมภาษณ์ศิษย์เก่าซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ที่ไต้หวัน
1.สมัยเรียนที่ KICL เลือกเรียนวิชาอะไรไปบ้าง (วิชาเลือกช่วงบ่าย)?
วัตนธรรมเกียวโต ภาษาญี่ปุ่นธุรกิจ เตรียมสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น
2.วิชาไหนที่เป็นประโยชน์ตอนสมัครงานและตอนทำงานบ้าง?
ทุกวิชามีความสำคัญครับ
โดยเฉพาะวิชาเรียงความผมคิดว่าเป็นวิชาที่สำคัญกว่าที่เคยคิดไว้ เนื่องจากในการทำงานต้องใช้อีเมลติดต่องานเยอะมาก นอกจากนี้บ่อยครั้งที่ฟังโทรศัพท์แล้วไม่เข้าใจหรือว่าเข้าใจแล้วแต่ก็ไม่สามารถสื่อสารออกมาได้อย่างที่ใจคิด การเขียนเรียงความจะเป็นประโยชน์อย่างมากตอนเรียบเรียงความคิดในหัว พอจะต้องเขียนสิ่งที่เข้าใจในหัวออกมาเป็นประโยค จะทำให้รู้เลยว่ามีจุดที่ตัวเองยังไม่เข้าใจหรือไม่สามารถสื่อออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ ปัจจุบันผมก็กำลังศึกษาคำศัพท์และสำนวนภาษาญี่ปุ่นผ่านการทำงานในบริษัท จากที่ช่วงแรกรับโทรศัพท์แล้วไม่สามารถตอบกลับได้ ก็เริ่มตอบกลับได้มากขึ้นเรื่อยๆ
3.ตอนสมัครงานทำอย่างไรบ้าง?
① หางานอย่างไร?
ผมสมัครและได้งานผ่านบริษัทจัดหางานของไต้หวันครับ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้งานทันทีนะครับ ผมสัมภาษณ์งานมา 5 บริษัทก่อนที่บริษัทที่ทำงานอยู่ปัจจุบันจะตกลงรับผมเข้าทำงาน
② ที่บริษัทต้องการผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นไหม? ต้องการระดับไหน?
บริษัทส่วนใหญ่ต้องการผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นระดับ 1,2 (N1, N2) แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ระดับ 1 ถ้าได้ภาษาอังกฤษเฉพาะทางก็มีโอกาสได้รับเลือกเข้าทำงาน (ตัวผมเองตอนที่สัมภาษณ์งาน ก็ยังไม่ได้ระดับ 1)
③ ฝากอะไรถึงรุ่นน้อง
ผมใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น 2 ปี เริ่มเรียนที่ KICL ตั้งแต่ระดับต้นจนจบระดับสูง ตอนแรกผมใฝ่ฝันที่จะเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่น แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ทำจริงๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากการเรียนในชั้นเรียนและจากการซึมซับวัฒนธรรมญี่ปุ่นในทุกๆ วัน คติประจำใจของผมคือจงกล้าหาญและท้าทายเพื่อทำฝันให้เป็นจริง ขอให้น้องๆ ทุกคนมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงฝันและทำให้ดีที่สุดนะครับ
4.ความรู้สึกต่อการเรียนที่ KICL
ผมรู้สึกขอบคุณบรรดาคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ที่ KICLทุกท่านเป็นอย่างมากที่ได้ดูแลผมตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น การได้เรียนที่ KICL ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไป ผมได้เรียนภาษา ขยายมุมมองของชีวิต ได้พบเพื่อนใหม่ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่หวนระลึกถึง สำหรับคนที่กำลังเรียนที่ KICL หรือกำลังคิดอยากจะมาเรียนที่นี่ ผมบอกได้เลยว่าชีวิตที่ KICL จะเป็นช่วงเวลาที่ลืมไม่ลงตลอดชีวิตของคุณเลยครับ
นักเรียนของโรงเรียนเราสามารถเข้าร่วมกิจกรรมชมรมต่างๆ ของ Kyoto University of the Arts ได้ ซึ่งเป็นโอกาสที่จะได้ประสบการณ์ที่พบได้เฉพาะในญี่ปุ่นและมีเพื่อนชาวญี่ปุ่น
■ชมรมกลองญี่ปุ่น Shin
ฉันสนใจกลองญี่ปุ่นจึงไปลองดูการทำกิจกรรมของชมรมกับเพื่อนและได้ลองเล่นด้วย ตอนแรกก็กังวลเพราะว่าตัวเองยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ แต่มีรุ่นพี่สอนวิธีการตีกลองให้จนทำได้ ฉันเข้าร่วมฝึกซ้อมกับนักศึกษาญี่ปุ่นและเข้าร่วมประชุมของชมรมด้วย บางคนรู้สึกว่าการฝึกซ้อมโหดแต่สำหรับฉัน ฉันว่าสนุกดี ฉันเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นจากชมรมกลองญี่ปุ่นมากมาย
■ชมรมแบดมินตัน
ฉันอยากจะทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน จึงลองทัวร์ดูชมรมต่างๆ แล้วก็ตัดสินใจเข้าเป็นสมาชิกชมรมแบดมินตันเพราะเข้ากับตัวเองมากที่สุด ฉันเข้าร่วมการฝึกซ้อมสัปดาห์ละ 2 ครั้งและเข้าค่ายฤดูร้อน 4 วัน 3 คืน ช่วงกลางวันจะฝึกซ้อม ส่วนกลางคืนจะทำอาหารร่วมกันและมีกิจกรรมทดสอบความกล้า การได้อยู่ร่วมกับคนญี่ปุ่นนานๆ แบบนี้ถือเป็นครั้งแรกและรู้สึกสนุกมาก